เจาะลึก 3 หุ้นโลกเขียว CIVIL, ATP30  และ GUNKUL ที่ไม่เพียงแค่เติบโตแข็งแกร่ง แต่ยังขับเคลื่อนธุรกิจด้วยแนวคิด ESG อย่างยั่งยืน ตอบโจทย์นักลงทุนที่มองไกลสู่อนาคตแห่งความยั่งยืนของโลก

เมื่อแนวโน้มโลกเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Social and Governance :ESG) แนวคิดเรื่อง “ความยั่งยืน” จึงกลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการดำเนินธุรกิจ นักลงทุนยุคใหม่ต่างให้ความสนใจกับหุ้นกลุ่ม ESG หรือที่เรียกกันว่า “หุ้นโลกเขียว” ซึ่งไม่เพียงสร้างผลตอบแทนในระยะยาวเท่านั้น แต่ยังดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อโลกและสังคมอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ในตลาดทุนไทย มีบริษัทจดทะเบียนจำนวนไม่น้อยที่ปรับตัวตามแนวโน้มดังกล่าว ด้วยการนำหลัก ESG มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินงาน วางรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยมีการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในหลากหลายอุตสาหกรรม สะท้อนถึงการเปลี่ยนผ่านที่ไม่เพียงแต่สร้างมูลค่าให้ธุรกิจ แต่ยังส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม

 

อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนกระบวนการดำเนินงานดังกล่าว ส่งผลให้บริษัทจดทะเบียนเหล่านี้มีความโดดเด่นเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับมาตรฐานของอุตสาหกรรมที่ตนดำเนินธุรกิจอยู่ พร้อมเสริมสร้างศักยภาพในการสร้างผลกำไรอย่างมั่นคง

ATP30: ระบบขนส่งอัจฉริยะ เปลี่ยนเส้นทางสู่ความเขียว บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานในนิคมอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จุดเด่นของ ATP30 คือการวางแผนเส้นทางเดินรถอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ โดยที่ผ่านมาสามารถลดปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Peak Demand) ลงตามเป้าหมาย และสามารถเพิ่มสัดส่วนการใช้ไฟฟ้าจากระบบโซล่าได้มากขึ้น

โดยในปีนี้ ATP30 มีเป้าหมายรักษาความเป็นผู้นำตลาดรถรับส่งพนักงาน ด้วยการยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ความปลอดภัย ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าแผนสร้าง Ecosystems สู่การเป็นผู้ให้บริการขนส่งพลังงานสะอาดแบบครบวงจร โดยตั้งเป้าเปลี่ยนรถโดยสารเป็น EV ทั้งหมดภายในปี 2030

 

นอกจากนี้บริษัทได้เริ่มใช้งานระบบ Solar Roof & Smart Charger ที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าจากเดิม 60 กิโลวัตต์ เป็น 120 กิโลวัตต์ และจะขยายเป็น 240 กิโลวัตต์ในปีนี้ นำมาใช้ชาร์จรถ EV ของบริษัท ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน พร้อมพัฒนานวัตกรรมด้านระบบพลังงานไฟฟ้า และบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีแบบแผน โดยมีความแข็งแกร่งทางการเงินและกระแสเงินสดที่มั่นคง เพื่อรองรับการลงทุนและการขยายธุรกิจในอนาคต ผู้นำด้านบริการขนส่งบุคลากรด้วยพลังงานสะอาดต่อไป

 

สำหรับผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 บริษัททำสถิติสูงสุดต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 9 มีรายได้รวม 202.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.28% และมีกำไรสุทธิ 15.22 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 45.93%

แหล่งที่มา: https://www.kaohoon.com/news/760319